เหตุการณ์สำคัญ ของ พีซทีวี (ประเทศไทย)

ฝ่ายความมั่นคงสั่งยุติการออกอากาศ

หลังการประกาศใช้กฎอัยการศึก ในวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 มีการออกคำสั่งให้ช่องโทรทัศน์ดาวเทียมหลายแห่งยุติการออกอากาศ โดยมีช่องยูดีดีทีวีรวมอยู่ด้วย ต่อมาภายหลัง คณะรัฐประหารเปิดให้ขอใบอนุญาตกับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อออกอากาศต่อ โดยมีเงื่อนไขห้ามเสนอเนื้อหา เชิงปลุกปั่นยุยงให้เกิดความแตกแยก และให้เปลี่ยนชื่อช่องรายการ ผู้ดำเนินการช่องยูดีดีทีวีเดิม จึงเปลี่ยนชื่อช่องเป็น "พีชทีวี"[5] โดยเริ่มทดลองออกอากาศ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ซึ่งมีเพียงรายการสนทนา "พีซทอล์ก" โดยเชิญแกนนำ นปช.มาร่วมรายการ และรายการข่าว รวมถึงรายการเดิมบางส่วน จนเริ่มออกอากาศเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน อนึ่ง ราวเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2557 มีการปรับปรุงระบบออกอากาศ และปรับปรุงฉากหลังของรายการ โดยนำจอแอลอีดีขนาดใหญ่ มาใช้ประกอบการนำเสนอข่าว รวมถึงนำเสนอข้อมูล เพื่อประกอบการสนทนาอีกด้วย

กสทช.พักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตฯ

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ลงมติให้พีซทีวีพักใช้ ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เป็นเวลา 7 วัน ระหว่างวันที่ 10 - 16 เมษายน พ.ศ. 2558 หลังจากสามารถกลับมาออกอากาศอีกครั้ง กสท.เห็นว่าพีซทีวียังคงมีเนื้อหาบางส่วน ที่เข้าข่ายปลุกปั่นยุยงให้เกิดความแตกแยกต่อไปอีก จึงลงมติให้เพิกถอนใบอนุญาตเป็นการถาวร เมื่อวันที่ 27 เมษายน ปีเดียวกัน[6] โดยหนังสือคำสั่งเพิกถอนดังกล่าว ออกมาในวันที่ 30 เมษายน เป็นผลให้เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจเข้าระงับ การส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมไทยคม จากสถานีดาวเทียมไทยคม ตั้งแต่เวลา 20:30 น.ของวันดังกล่าว

ซึ่งขณะนั้น พีซทีวีกำลังออกอากาศสด รายการข่าว "ห้องข่าวเล่าเรื่องค่ำ" ที่เมื่อแรกออกอากาศประจำวันดังกล่าว มีเพียงชุติมา กุมาร เป็นผู้ประกาศข่าวเพียงผู้เดียว แต่เมื่อคณะผู้ประกาศข่าวทั้งหมดของช่องทราบว่า กำลังจะมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต จึงพยายามเร่งเดินทางไปยังห้องส่ง ด้วยความตั้งใจว่าจะกล่าวคำอำลาต่อผู้ชม ทว่ารวมกันได้เพียง 4 คนคือ อรุโณทัย ศิริบุตร, ณิชชนันทน์ แจ่มดวง, ชุติมา กุมาร, และธนกร ภักดีนพรัตน์[7] จากนั้นผู้บริหารช่อง และกองบรรณาธิการข่าว ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการนำช่องพีซทีวี ไปออกอากาศผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแทน

โดยในวันพุธที่ 6 พฤษภาคม พีซทีวีทดลองออกอากาศ ด้วยการนำเสนอรายงานข่าว ผ่านเว็บไซต์ยูทูบ ในรูปของข่าวต้นชั่วโมง ช่วงเวลา 12:00 น., 14:00 น., 16:00 น. ตามลำดับ และข่าวภาคค่ำ ในเวลา 18:00 น. โดยแพร่ภาพข่าว พร้อมเสียงบรรยายประกอบเท่านั้น ไม่มีการใช้กล้องโทรทัศน์ ถ่ายทอดภาพผู้ประกาศข่าวตามปกติ[ต้องการอ้างอิง] จนกระทั่งถึงวันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม จึงเริ่มออกอากาศผ่านทางยูทูบ ด้วยผังรายการซึ่งจัดขึ้นใหม่ ออกอากาศระหว่างเวลา 11:00-21:00 น.[ต้องการอ้างอิง]

ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว พีซทีวียื่นเรื่องร้องเรียน ไปยังหน่วยงานต่างๆ เช่นองค์การสหประชาชาติ ในวันที่ 4 พฤษภาคม[8] และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในวันที่ 7 พฤษภาคม[9] รวมทั้งยื่นฟ้องคณะกรรมการ กสท.ต่อศาลปกครอง[10] จนกระทั่งศาลปกครอง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้พีซทีวีออกอากาศผ่านดาวเทียมอีกครั้ง เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม โดยจตุพร พรหมพันธุ์ ประกาศไม่นำรายการมองไกล ซึ่งตนเป็นผู้ดำเนินรายการ กลับไปออกอากาศผ่านดาวเทียม แต่จะยังคงออกอากาศผ่านยูทูบเช่นเดิม[11] ทั้งนี้ พีซทีวีเริ่มกลับมาออกอากาศอีกครั้ง ตั้งแต่วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม ซึ่งเป็นการเลื่อนจากเดิมที่กำหนดไว้ เมื่อวันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม เนื่องจากฝ่ายเทคนิค ยังเตรียมการไม่เรียบร้อย โดยขยายผังรายการเป็นตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันตามเดิม ซึ่งจำแนกเป็น การออกอากาศรายการครั้งแรก ระหว่างเวลา 06:00-21:00 น. ส่วนช่วงเวลาหลังจากนั้น เป็นการแพร่ภาพรายการที่ออกอากาศไปแล้ว

กสทช.พักใช้ใบอนุญาตครั้งที่ 2

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ลงมติให้พีซทีวีพักใช้ ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เป็นเวลา 30 วัน [12] นับตั้งแต่วันที่หนังสือแจ้งเตือนมาถึงสถานีฯ โดยวันที่มีมติดังกล่าว เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 ทางผู้บริหารได้ยืนหนังสือคัดค้านมติดังกล่าวและแย้งว่าไม่สามารถเพิกถอนใบอนุญาตได้เนื่องจากได้รับความคุ้มครองจากศาลปกครองในการออกอากาศ ทั้งนี้ หนังสือเตือนมาถึงสถานีฯในวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 และในเวลาเย็นของวันดังกล่าว พีซทีวียกเลิกรายการปกติตามผังรายการ และถ่ายทอดสดรายการพิเศษนับถอยหลังการพักใช้ใบอนุญาต โดยถ่ายทอดสดจากห้องประชุมพันเอก ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย ชั้น 5 อาคารบิ๊กซีลาดพร้าว ซึ่งมีการแสดงดนตรีสลับการการปราศรัยจากแกนนำ นปช.จนกระทั่งในเวลาประมาณ 23:00 น. แกนนำ นปช.และพิธีกรของสถานีฯ ได้ร่วมกันร้องเพลง และนับถอยหลังก่อนที่จะยุติการออกอากาศ จนกระทั่งหน้าจอได้ตัดเข้าสู่หน้าจอแจ้งยุติการออกอากาศ ก่อนที่จะตัดเข้าสู่แถบสีทดสอบ (เมื่อชมผ่านโทรทัศน์ดาวเทียม) ทั้งนี้ การออกอากาศออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ยูทูบยังคงออกอากาศอย่างต่อเนื่องตามปกติ และเพิ่มการออกอากาศผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ในหน้าเพจของพีซทีวีเอง จนกระทั่งวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2559 พีซทีวีกลับมาออกอากาศผ่านดาวเทียมอีกครั้งในเวลา 00:01 น. โดนในเวลาเที่ยงของวันเดียวกัน มีกิจกรรมต้อนรับการกลับมาออกอากาศอีกครั้งของพีซทีวี โดยถ่ายทอดสดจากห้องประชุมพันเอก ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย ชั้น 5 อาคารบิ๊กซีลาดพร้าว ซึ่งมีการแนะนำตัวของพิธีกรรายการต่างๆ สลับกับการแสดงดนตรี โดยมีการแถลงข่าวจากทางแกนนำ นปช.คั่นระหว่างการถ่ายทอดสดในเวลาประมาณ 13:00 น. ทั้งนี้ การถ่ายทอดสดกิจกรรมต้อนรับการกลับมาออกอากาศอีกครั้งของพีซทีวีจบลงในเวลาประมาณ 17:50 น. โดยผังรายการใหม่ของพีซทีวีนั้น ในเวลา 06:00-00:30 น. จะเป็นรายการแบบออกอากาศครั้งแรก (First Run) หลังจากนั้นจะเป็นการนำรายการต่างๆมาฉายซ้ำ (Rerun) จนถึงเช้าของวันรุ่งขึ้น ปรับลดรายการวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองและเพิ่มรายการข่าว รายการบันเทิง และรายการปกิณกะ

กสทช.พักใช้ใบอนุญาตครั้งที่ 3

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2560 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ลงมติให้พีซทีวีพักใช้ ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เป็นเวลา 30 วัน [13] นับตั้งแต่วันที่หนังสือแจ้งเตือนมาถึงสถานีฯ ซึ่งกรณีดังกล่าวนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษา นปช. ได้แสดงความเป็นห่วงถึงการสั่งพักใช้ใบอนุญาต ซึ่งสาเหตุที่ กสทช. สั่งพักใช้ใบอนุญาตเป็นครั้งที่ 3 เนื่องจากหวั่นวิตกว่าพีซทีวีจะเสนอข่าวสารระดมมวลชนไปให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะมีการพิพากษาคดีโครงการรับจำนำข้าวในวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2560 [14] ทั้งนี้ หนังสือเตือนมาถึงสถานีฯ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2560 และให้มีผลในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00:01 น.[15]

ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลาประมาณ 08:00 น. การออกอากาศออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ยูทูบและเฟซบุ๊กไลฟ์ ในหน้าเพจของพีซทีวีเองยังคงออกอากาศอย่างต่อเนื่องตามปกติ จนกระทั่งเวลา 09:00 น. เริ่มออกอากาศรายการข่าวภาคเช้า โดยคณะผู้ดำเนินรายการห้องข่าวเล่าเรื่องเช้า เป็นรายการแรก โดยรายการส่วนใหญ๋ไม่เป็นไปตามผังรายการปกติ โดยรายการทั้งหมดหลังจากนั้นออกอากาศจากทั้งห้องประชุมในสำนักงานของสถานีฯ หน้าสำนักงานของสถานีฯ และสำนักงานของ นปช. รวมถึงยังมีการถ่ายทอดสดรายการระดมทุนจากร้านกาแฟพีซไลบลารีแอนด์คาเฟตามปกติในทุกวันอาทิตย์ และบางส่วนรับสัญญาณจากเพจเฟซบุ๊กของแกนนำ นปช.อีกด้วย โดยทั้งหมดนี้ออกอากาศโดยไม่มีโฆษณาคั่นระหว่างรายการรวมถึงไม่มีการแสดงอัตลักษณ์/แถบข้อความ SMS ของผู้ชมตามปกติ แต่จะแทนที่ด้วยแถบประชาสัมพันธ์หมายเลขรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการออกอากาศของทางสถานีฯ

ในวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2560 ทางพีซทีวีจะจัดงานระดมทุนสนับสนุนการออกอากาศของสถานีฯ โดยจัดขึ้น ณ ห้องประชุมพันเอก ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย ชั้น 5 อาคารบิ๊กซีลาดพร้าว

จนกระทั่งเวลา 00:01 น. ของวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2560 พีซทีวีกลับมาออกอากาศอีกครั้ง โดยเปิดสถานีด้วยมิวสิกวีดีโอเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งจัดทำโดยสถานีฯ ต่อด้วยเพลงประจำสถานีฯ (นกสันติภาพ,พีซทีวี) ก่อนเริ่มรายการแรก เป็นเทปบันทึกภาพรายการ "พีซทีวีเวทีทัศน์" ประจำวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2560 รวมระยะเวลาพักใช้ใบอนุญาต 30 วัน

ในวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560 หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พีซทีวีได้ปรับรูปแบบรายการข่าวโดยกระจายการออกอากาศสดโดยใช้สำนักงาน นปช., ห้องประชุมของ นปช. รวมถึงร้านกาแฟพีซไลบลารีแอนด์คาเฟ เป็นห้องส่งรายการข่าวภาคเช้าและเที่ยง ส่วนข่าวภาคค่ำยังคงจัดรายการในห้องส่งตามเดิม พร้อกับมีการปรับกราฟิกหน้าจอ รวมถึงปรับอัตราส่วนในการออกอากาศภาพข่าว และไตเติลข่าวเป็น 16:9 เต็มหน้าจอ

กสทช.พักใช้ใบอนุญาตครั้งที่ 4

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ลงมติให้พีซทีวีพักใช้ ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เป็นเวลา 15 วัน [16] โดยอ้างสาเหตุว่าเกิดจากรายการทิศทางประชาธิปไตยไทย ที่มีการสัมภาษณ์ประชาชนที่มาเยี่ยมนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนสำคัญของ นปช. ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและมีการเชิญชวนประชาชนให้มาเยี่ยม ทั้งนี้การออกอากาศออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ยูทูบและเฟซบุ๊กไลฟ์ ในหน้าเพจของพีซทีวีเองยังคงออกอากาศอย่างต่อเนื่องตามปกติ โดยปรับลดระยะเวลาออกอากาศของรายการต่างๆ ยกเว้นรายการข่าว เป็นรายการละ 30 นาที โดยออกอากาศโดยไม่มีโฆษณาคั่นระหว่างรายการรวมถึงการแสดงอัตลักษณ์บนหน้าจอยังคงเป็นไปตามปกติแต่ไม่มีแถบข้อความ SMS ของผู้ชม โดยช่วงรอยต่อระหว่างรายการต่างๆ สถานีฯ ออกอากาศมิวสิกวีดีโอบทเพลงของนายจตุพร พรหมพันธุ์ สลับกับสปอตโปรโมทรายการต่างๆของสถานี

จนกระทั่งเวลา 00:01 น. ของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 00:01 น. พีซทีวีขึ้นหน้าจอสีแดงแจ้งว่าสถานีจะเริ่มออกอากาศในเวลา 04:30 น. จนกระทั่งเวลา 04:30 น. พีซทีวีกลับมาออกอากาศอีกครั้ง โดยเปิดสถานีด้วยไอเดนท์ของสถานี และมิวสิกวีดีโอเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งจัดทำโดยสถานีฯ ต่อด้วยสกู๊ปพิเศษของพีซทีวีที่ถ่ายทำ ณ งาน "อุ่นไอรัก คลายความหนาว" ณ ลานพระราชวังดุสิต และ สนามเสือป่า ก่อนเริ่มรายการแรก คือ รายการ "เกษตรรุ่งอรุณ" รวมระยะเวลาพักใช้ใบอนุญาต 15 วัน

กสทช.พักใช้ใบอนุญาตครั้งที่ 5

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ลงมติให้พีซทีวีพักใช้ ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เป็นเวลา 30 วัน [17] โดยอ้างสาเหตุว่าเกิดจากมีบางรายการนำเสนอเนื้อหาอันเป็นการส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยกในราชอาณาจักร ซึ่งหลังจากที่มีมติจากทาง กสท. ทางสถานีฯได้ประชาสัมพันธ์ช่องทางการรับชมผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ทั้งเฟซบุ๊กและยูทูบ โดยมีการแสดงแถบประชาสัมพันธ์ที่ด้านบนของแถบข้อความ SMS รวมถึงจัดทำสปอตแนะนำช่องทางการรับชม เพื่อให้ผู้ชมได้เตรียมความพร้อมในการรับชมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งหนังสือคำสั่งมาในวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ทางพีซทีวียังคงออกอากาศรายการปกติตามผังรายการจนกระทั่งเวลา 23:10 น. เริ่มออกอากาศรายการพิเศษ "สู่เสรีภาพสื่อประชาธิปไตยประชาชน" เพื่อเตรียมอำลาผู้ชม โดยมีพิธีกรจากรายการ "สาวข่าวเช้า" ดำเนินรายการ หลังจากรายการดังกล่าวจบลง ได้ตัดเข้าสู่หน้าจอแจ้งระงับการออกอากาศ โดยมีเสียงเป็นเพลง "บินต่อไป" ก่อนจะตัดเข้าสู่แถบสี (หากชมผ่านโทรทัศน์ดาวเทียม) ทั้งนี้การออกอากาศออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ยูทูบและเฟซบุ๊กไลฟ์ ในหน้าเพจของพีซทีวีเองยังคงออกอากาศอย่างต่อเนื่องตามปกติ

ย้ายที่ทำการสถานีฯ

การย้ายที่ทำการสถานีโทรทัศน์พีซทีวี ได้รับการเปิดเผยโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2562 ในงานสงกรานต์บานฉ่ำ ณ ห้องประชุมพันเอก ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย ชั้น 5 อาคารบิ๊กซีลาดพร้าว โดยให้เหตุผลเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเช่าสถานที่ [18]โดยคาดการณ์ว่าจะย้ายไปอยูในพื้นที่ซอยวัชรพล

ต่อมา เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ปีเดียวกัน มีพิธีวางศิลาฤกษ์ที่ทำการสถานีโทรทัศน์พีซทีวีแห่งใหม่ ซอยรามอินทรา 40 (ซอยวัดนวลจันทร์) เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร โดยมีแกนนำ นปช. พิธีกรและพนักงานพีซทีวีเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก [19]โดยอาคารที่ทำการจะเป็นอาคารชั้นเดียว [20]แบ่งส่วนของอาคารเป็นส่วนร้านกาแฟ หอประชุม และส่วนปฎิบัติการออกอากาศ[21]

แหล่งที่มา

WikiPedia: พีซทีวี (ประเทศไทย) http://www.ryt9.com/s/tpd/1972568 http://www.settrade.com/NewsEngineTXTDisplay.jsp?f... http://www.thaiday.com/Politics/ViewNews.aspx?News... http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=6423... http://www.komchadluek.net/detail/20150507/205890.... http://www.dailynews.co.th/politics/318866 http://www.dailynews.co.th/politics/335357 http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsi... http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?Ne... http://www.manager.co.th/cyberbiz/ViewNews.aspx?Ne...